top of page
รูปภาพนักเขียนเพรสโก้ ฟู้ด

สูตรชาบูทำกินเองที่บ้าน

ชาบู ชาบู เมนูอาหารญี่ปุ่น ประเภทหม้อไฟที่หลายคนยอมควักเงินจ่ายเพื่อแลกกับความอร่อย เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 แบบ ทำกินเองง่าย ๆ สบาย ๆ อิ่มอร่อยทั้งครอบครัว

น้ำซุปสุกียากี้

          น้ำซุปสุกียากี้สีดำ ๆ คือหัวใจสำคัญของการกินชาบูเลยก็ว่าได้ ถ้าน้ำซุปไม่อร่อยก็พลอยทำให้กินชาบูไม่อร่อยไปด้วย ขอแนะนำน้ำซุปสุกียากี้สูตรเบสิก ๆ เลยค่ะ

ส่วนผสม น้ำซุปสุกียากี้

          • ปลาโอแห้ง (ปลาคัตสึโอะ Katsuo Bushi)           • สาหร่ายคอมบุ (หรือเห็ดหอมแห้ง)           • เหล้าสาเก           • เหล้ามิริน           • น้ำตาลทรายแดงป่น           • ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น (คิคโคแมน)           • น้ำเปล่า

วิธีทำน้ำซุปสุกียากี้

          • 1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ (ปริมาณขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่ชอบ) นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด

          • 2. ใส่เนื้อปลาโอแห้งลงไป ต้มต่อ 2 นาทีจนเริ่มเดือดแล้วตักเนื้อปลาออก

          • 3. ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่นและน้ำตาลทรายแดงป่น คนให้เข้ากัน จากนั้นเติมเหล้าสาเกและมิรินลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง ชิมรสให้ออกหวานและเค็มตามชอบ เตรียมไว้


น้ำซุปสาหร่ายคอมบุ

          ถ้าใครไม่มีเวลาปรุงน้ำซุปสุกียากี้ ก็ลองมาทำน้ำซุปสาหร่ายคอมบุดูบ้าง สูตรนี้ใช้แค่สาหร่ายคอมบุทำน้ำซุปเท่านั้น ไม่ต้องเคี่ยวให้เสียเวลา ลองซดดูค่ะ รสชาติหอมหวาน และทำง่ายจริง ๆ นะขอบอก

ส่วนผสม น้ำซุปสาหร่ายคอมบุ

          • สาหร่ายคอมบุ ขนาดประมาณ 3x3 นิ้ว 4 แผ่น           • น้ำเปล่า

วิธีทำน้ำซุปสาหร่ายคอมบุ

          • 1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ใส่สาหร่ายคอมบุลงไปแช่ไว้ประมาณ 30 นาที

          • 2. เปิดเตาต้มน้ำซุปประมาณ 10 นาที พอน้ำเริ่มเดือดก็เอาสาหร่ายคอมบุออก เตรียมไว้


ซอสงา (Sesame Sauce)

          สำหรับใครที่อยากทำชาบูกินเองที่บ้านต้องมีซอสงาติดบ้านไว้นะคะ ถ้าหากอยากทำเองก็ไม่ยากค่ะ แค่เตรียมส่วนผสมให้พร้อมแล้วก็นำทุกอย่างมาคนผสมเข้าด้วยกัน เวลากินจะได้กลิ่นหอมของงาบดด้วย  นอกจากนี้ยังเอาไปเป็นทำเป็นน้ำสลัดได้อีกด้วย ทำครั้งเดียวเก็บใส่ขวดเอาไว้กินครั้งหน้าได้อีกด้วย ลองทำกันดูนะคะ 

ส่วนผสม ซอสงา

          • สาเก 3 ช้อนโต๊ะ           • งาขาวบด 2 ช้อนโต๊ะ           • ซอสพอนสึ 1 ช้อนโต๊ะ           • มิโสะ 1 ช้อนโต๊ะ           • น้ำมันพืช 1/2 ช้อนโต๊ะ           • น้ำมันงา 1/2 ช้อนโต๊ะ           • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา           • มิริน 1 ช้อนชา           • น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 1 ช้อนชา           • กระเทียมสับ

วิธีทำซอสงา

          • นำส่วนผสมทุกอย่างมาผสมเข้าด้วยกัน ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้


น้ำจิ้มพอนสึ (Ponzu Sauce)

          มาต่อกันที่สูตรน้ำจิ้มพอนสึ อีกหนึ่งสูตรน้ำจิ้มสำหรับชาบู มีรสชาติเปรี้ยวนำ ตามด้วยหวานและเค็มนิด ๆ สูตรนี้ทำง่ายไม่ยุ่งยาก มีรสเปรี้ยวจากน้ำเลมอนและน้ำส้มสายชูหมักจากข้าว เพิ่มความเค็มจากซอสถั่วเหลือง แซมรสหวานจากมิริน ทำครั้งเดียวเก็บใส่ขวดไว้กินได้หลายมื้อนะคะ ส่วนผสม น้ำจิ้มพอนสึ

          • ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ           • น้ำซุปดาชิ 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ           • น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ           • น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 1/2 ช้อนโต๊ะ           • เหล้ามิริน 1 ช้อนชา

วิธีทำน้ำจิ้มพอนสึ

          • นำส่วนผสมทุกอย่างมาผสมเข้าด้วยกัน ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้



เครื่องชาบูอื่น ๆ

          หลังจากเตรียมน้ำซุปสุกี้ และน้ำจิ้ม 2 สูตร คือ ซอสงากับน้ำจิ้มพอนสึเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเครื่องเคราชาบูกันนะคะ เช่น ผักต่าง ๆ เต้าหู้ เห็ด ที่ขาดไม่ได้เลยคือ เนื้อสัตว์ตามชอบเลยค่ะ หรือถ้าหากเพื่อน ๆ อยากตัดทอน หรือเพิ่มอะไรลงไปอีกก็เอาที่สบายใจเลยค่ะ วิธีการกินก็ไม่ยากค่ะ แค่นำผักต่าง ๆ เต้าหู้ และเห็ดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในหม้อน้ำซุป พอสุกก็กินได้แล้วค่ะ ส่วนเนื้อสัตว์เอาลงไปจุ่มในน้ำซุปเดือด รอจนเนื้อสุกก็กินได้ โดยจิ้มกับซอสงา หรือน้ำจิ้มพอนสึ

ส่วนผสม ชาบูหม้อไฟ

          • ผักกาดขาว (หั่นเป็นท่อน ๆ)           • ผักปวยเล้ง (เด็ดเป็นใบ)           • ขึ้นฉ่าย (หั่นเป็นท่อน)           • เห็ดเข็มทอง (หั่นเป็นท่อน)           • เห็ดหอมสด (เอาก้านกลางออก) 8-10 ดอก           • แครอท (หั่นแว่น)           • ข้าวโพดดิบ (หั่นท่อน)           • เห็ดชิเมจิ (หั่นเป็นท่อน)           • เต้าหู้ (หั่นเต๋า)           • ต้นหอมญี่ปุ่น (หั่นเป็นท่อน)           • เนื้อสัตว์สไลซ์ (เลือกตามชอบ) เช่น เนื้อวัว,เนื้อหมู           • เส้นอุด้ง หรือเส้นบุก           • ไข่ไก่           • หมูบด หรือไก่บด           • น้ำจิ้มงาบด           • น้ำจิ้มพอนสึ           • ต้นหอมซอย (ใส่น้ำจิ้ม)           • ไช้เท้าขูด (ใส่น้ำจิ้ม)           • พริกสับ (ปรุงรสน้ำจิ้ม)           • กระเทียมสับ (ปรุงรสน้ำจิ้ม)


ขอบคุณข้อมูลจาก @kapook.com

ดู 6,396 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


bottom of page